ในการสร้างบ้านแต่ละหลังนั้น นอกจากเราจะออกแบบดีไซน์หน้าตาบ้านให้สวยงามแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือโครงสร้างบ้าน ดังนั้นแล้วมารู้จักกับโครงสร้างบ้าน หลายคนอาจยังไม่รู้จักแบบก่อสร้างว่าหน้าตาเป็นอย่างไร และมีความจำเป็นอย่างไรกับการสร้างบ้าน ในบทความนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกันครับ
มารู้จักโครงสร้างบ้าน ก่อนที่จะสร้างบ้านกัน!
แบบก่อสร้าง
ก็คือ แบบที่จะบอกรายละเอียดต่างๆ ในการก่อสร้างเอาไว้ เพื่อให้ช่างทำตามแบบที่เราต้องการครับ แบบก่อสร้างในหนึ่งเล่ม จะประกอบไปด้วย อะไรบ้าง มาดูกันเลย
แบบโครงสร้าง ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะบ้านจะแข็งแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแบบส่วนนี้เลยก็ว่าได้ โดยแบบโครงสร้างนั้นจะต้องผ่านการออกแบบ และคำนวณมาอย่างดีจากวิศวกรโครงสร้าง มีการกำหนดฐานราก, ขนาดเสา, ขนาดคาน และขนาดเหล็กต่างๆ มาให้อย่างละเอียด ตามแบบบ้านแต่ละหลัง ดังนั้นแบบโครงสร้างถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างบ้านเลยก็ว่าได้
จะมีรายละเอียดของแบบแปลน, รูปด้าน, รูปตัด และแบบขยายต่างๆ ที่สามารถให้ช่างทราบระยะ ในการทำงานอย่างละเอียด รวมถึงรายละเอียดของวัสดุที่ใช้ในแต่ละส่วน เช่นวัสดุปูพื้น – ผนัง, วัสดุมุงหลังคา, ประตู-หน้าต่าง เป็นต้น
ฐานราก
เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญที่สุดของบ้าน แบ่งเป็น เสาเข็ม ฐานรากและตอม่อ
เสาเข็ม ส่วนแรกของบ้าน ที่ต้องมีการก่อสร้างก่อนส่วนอื่น มีการทำจากวัสดุก่อสร้างหลักๆ คือ เสาเข็มไม้ และ เสาเข็มคอนกรีต เสาเข็มไม้ มีขนาดเล็ก รับน้ำหนักได้ไม่มาก การใช้งานจะใช้หลายๆต้น เพื่อให้รับน้ำหนักได้มาก ตามขนาดของบ้าน จึงนิยมใช้กับบ้านหลังเล็กๆ หรือบ้านชั้นเดียว การก่อสร้างจะตอกโดยใช้แรงคน ด้วยวิธีก่อสร้างแบบดั้งเดิม (แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีน้อย) หรือใช้รถแบคโฮด ซึ่งจะรวดเร็วกว่า
ฐานราก เป็นแผ่นคอนกรีต ที่หล่อทับหัวเสาเข็ม เพื่อรับแรงต่อจากเสาเข็มแล้วรวมไปยังเสาตอม่อ ในบางกรณีที่ดินแข็งอาจไม่จำเป็นต้องตอกเสาเข็ม ฐานราก เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดประมาณ 0.80 ถึง 1.20 เมตร สำหรับบ้าน 2 ชั้นทั่วไป มีความหนาไม่ต่ำกว่า 20 ซม.ตอม่อ เสาส่วนที่ตั้งบนฐานราก ขึ้นมารับคานพื้นชั้นล่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในดิน ทำหน้าที่เหมือนกับเสา ทุกประการ
เหล็ก
ที่ใช้ในการก่อสร้างเสา-คานของบ้าน โดยทั่วไปจะแบ่งเป็นสองประเภทด้วยกันคือ เหล็กเส้นกลม และเหล็กข้ออ้อย
การจะตรวจสอบหรือทราบว่าเหล็กเส้นทั้งสองประเภทนั้นมีคุณภาพที่ได้มารตาฐานหรือไม่ ทำได้ง่ายโดยอาศัยการสังเกตจาก “ป้ายรายละเอียดเหล็ก” ซึ่งจะถูกติดมากับมัดของเหล็กเส้น ซึ่งบนป้ายดังกล่าวจะแสดงรายละเอียดของ อาทิ บริษัทผู้ผลิต ประเภทสินค้า ชั้นคุณภาพ ขนาด ความยาว วัน/เวลาที่ผลิต และที่สำคัญคือ เครื่องหมายและเลขที่ มอก. หากป้ายรายละเอียดเหล็กหาย ก็สามารถตรวจสอบที่ตัวเหล็กเส้นว่าต้องมีเครื่องหมาย มอก. เป็นระยะๆ ในเนื้อเหล็กเช่นกัน
ช่องเปิดต่างๆ
ประตูและหน้าต่างทั้งหลาย ซึ่งไม่เพียงแต่มีประโยชน์ใช้สอยแล้ว ยังเพิ่มความสวยงามให้บ้านอีกด้วย การเจาะช่อง ประตู หน้าต่าง จึงต้องคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว ทั้ง 2 ด้าน เช่นหน้าต่าง นอกจากจะเปิดระบายอากาศ ชมวิวแล้ว ภายในบ้าน ก็มีผลต่อการจัดวางเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย ผนังเป็นส่วนประกอบที่แข็งแรง มีราคาถูก ส่วนช่องเปิด จะเป็นตัวเน้นความสวยงาม น่าอยู่ ของตัวบ้าน แต่จะใช้งบประมาณมากกว่ากัน ประเภทบ้านจัดสรร จึงมักเปิดหน้าต่างไม่มาก เหมือนบ้านที่สร้างเอง
หลังคา
เป็นส่วนที่มีความสำคัญ ไม่แพ้ส่วนอื่น คอยปกป้อง แดด ฝน ให้กับส่วนอื่นๆทั้งหมด ส่วนของหลังคา ถ้ามีปัญหา ก็จะทำความเสียหายให้กับตัวบ้านได้ หลังคาประกอบด้วยวัสดุหลัก 2 ส่วน คือโครงหลังคา และวัสดุมุงหลังคา มีความสำคัญเท่าเทียมกัน และทำหน้าที่ร่วมกันอย่างสามัคคี โครงหลังคา ถ้าไม่แข็งแรง แอ่นยุบ ก็จะทำให้กระเบื้องอ้า เผยอ น้ำรั่วเข้าบ้านได้ หลังคาถ้าไม่แข็งแรง ก็จะแตกหัก หรือมุงไม่สนิท ก็เป็นสาเหตุให้น้ำรั่วซึม สร้างความเสียหาย กับโครงหลังคา และตัวบ้านได้ เช่นกัน
ระบบไฟฟ้า
เป็นการอำนวยความสะดวกสบายหลากหลายอย่าง เพราะอุปกรณ์ต่างๆในปัจจุบัน มักทำงานได้ด้วยกระแสไฟฟ้า ความสำคัญอย่างแรกคือ การให้แสงสว่าง ให้เราทำอะไรได้ในยามค่ำคืน และไฟฟ้ายังเป็นพลังงานแบบสำเร็จรูป ช่วยให้เราได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานให้ความเย็นกับเรา ช่วยให้ตู้เย็นช่วยเก็บและถนอมอาหารของเรา ช่วยให้ความบันเทิงผ่านเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ ช่วยคุณแม่บ้าน ปั่นเครื่องซักผ้า และเตารีด และที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบันคือคอมพิวเตอร์ให้เด็กๆได้ท่องโลกอินเตอร์เนท และเล่นเกมส์อย่างมีความสุข
ระบบท่อ
ที่ควรเลือกมาใช้ทำท่อน้ำดีและท่อน้ำเสียของบ้าน ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของบ้าน ควรเลือกท่อพีวีซีที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อระบบท่อเกิดปัญหารั่วซึมจะทำให้ระบบอื่นๆ ของบ้านมีปัญหาตามมาในทันที นอกจากการเลือกท่อพีวีซีที่ได้มาตรฐานแล้ว การเลือกข้อต่อก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ควรเลือกที่มีมาตรฐานรองรับเช่นเดียวกันกับท่อเพราะจะต้องสวนกันได้อย่างพอดี ไม่เกิดช่องว่างระหว่างท่อและข้อต่อเป็นอันขาด เพราะนั่นอาจจะทำให้ท่านต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมบ้านเพิ่มขึ้นในภายหลังอย่างแน่นอน
งานตกแต่งสถาปัตยกรรม
เป็นส่วนสุดท้าย บ้านจะสวยงาม สมใจของเจ้าของหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกประเภทวัสดุตกแต่งทั้งหลาย คือวัสดุตกแต่งผิว ทั้งผิวพื้น ผนัง รวมถึงสีที่เลือกใช้ แต่บางครั้ง ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานด้วย เช่นวัสดุปูพื้นที่ลื่นหรือหยาบในบางตำแหน่ง วัสดุตกแต่ง จะเป็นส่วนที่มีมูลค่ามากเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของอาคาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวัสดุตกแต่งที่มีราคาแพง จะต้องดีเสมอไป